แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ครูบาวัง แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ครูบาวัง แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ม้าเสพนาง

ผ้ายันต์ม้าเสพนาง (ยุคต้น) ครูบาวัง สร้างประมาณปี 2490-2500

ผ้ายันต์แห่งเมตตามหาเสน่ห์อันดับ1ของเมืองไทยก็ว่าได้ ที่โด่งดังคงต้องยกให้ ม้าเสพนาง ของท่านครูบาวัง วัดบ้านเด่น จ.ตาก ผ้ายันต์ม้าเสพนางของท่านขึ้นชื่ออย่างมากทางด้านมหาเสน่ห์ เป็นที่เสาะแสวงหากัน ของแท้มีน้อยมากเพราะในการสร้างแต่ละครั้ง ไม่ได้สร้างกันครั้งละมาก ๆ แต่จะสร้างให้เฉพาะเป็นรายบุคคลที่มาขอท่านโดยตรงเท่านั้น แต่ถ้าเป็นยุคปลายที่ปั๊มจากแท่นสกีนก็จะมีมากขึ้นมาหน่อย ผ้าที่ใช้ในการสร้างผ้ายันต์ ยุคต้น และยุคกลาง ก็จะต้องเป็นผ้าดิบที่ผ่านการห่อศพมาแล้ว (ในตำราระบุว่าต้องเป็นผ้าคลุมศพหรือผ้าคลุมโลงศพเท่านั้น ถึงจะเข้มขลังสุดๆ) เป็นสูตรอย่างหนึ่งในการทำผ้ายันต์ของท่าน โดยนำมาวาด ลงอักขระเลขยันต์และปลุกเสกในคืนจันทร์เพ็ญ สูตรมหาเสน่ห์ม้าเสพนางที่นุ่มนวลล้ำลึกแต่เวลาใช้กลับร้อนแรง ไร้เทียมทาน ผ้ายันต์เขียนมือนี้ ถือเป็นผ้ายันต์ยุคกลางของท่าน ถ้าเป็นยุคต้น ๆ จะวาดและเขียนด้วยดินสอ ขนาดของผ้ายันต์ผืนนี้ ประมาณ 1ฟุตกว่า x 1ฟุตกว่า สภาพสวยสมบูรณ์ ทำจากผ้าดิบที่ได้มาจากการห่อศพ หายากมาก คนในพื้นที่ห่วงกันมาก รุ่นที่นิยม มีเพียง 3รุ่นเท่านั้น รุ่นแรกใช้ดินสอ  รุ่นสองใช้ปากกา รุ่นสามสกรีน(ยุคปลายของหลวงพ่อแล้ว)  ของปลอมเยอะมาก ดังนั้นผู้ที่คิดจะมีไว้ต้องศึกษาหน่อยนะ เพราะรุ่นปลายหลวงพ่อหามาตรฐานไม่ได้เรย  นอกจากนี้ยังมีผ้ายันต์ที่มีอานุภาพแรงมากไม่แพ้กันคือ ผ้ายันต์พญาอิ่นแก้ว และ ผ้ายันต์พญาเขาคำ และอื่นๆ ว่างๆจะถ่ายรูปของจริงมาให้ดูกันครับ

สุดยอดผ้ายันต์ม้าเสพนางที่ได้รับความนิยมอันดับหนึ่ีงแห่งแดนล้านนา นับวันราคายิ่งแพงขึ้นทุกขณะ ผ้ายันต์ม้าเสพนางครูบาวังผืนนี้เขียนมือผืน การสร้างผ้ายันต์ในยุคนี้หลวงพ่อท่านจะลงจารอักขระ และเขียนแบบพร้อมกับ บริกรรมคาถากำกับ ทุกตัวครับ ครบสูตรสำหรับแจกให้กับลูกศิษย์ พุทธคุณทุกด้านครับ มหาอำนาจเมตตา บารมี มหาเสน่ห์ ใช้ในด้านค้าขายยิ่งดี ใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ใครที่นำไปบูชาขอให้ศรัทธาจริงฯครับรับรองครับว่ามีประสบการณ์กับตัวเองแล้วจะรู้สึกได้ครับว่าพุทธคุณของหลวงพ่อท่านเข้มขลังจริงคับผม

ใครมีไว้รับรองชีวิตท่านจะเปลี่ยนแปลงดีขึ้นทุกอย่างทั้งโชคลาภ เงินทอง หน้าที่การงาน ไปได้แบบสุดๆอย่างน่าอัศจรรย์

ม้าเสพนาง พุทธคุณโดดเด่นมาก สุดยอดเสน่ห์เมตตามหานิยม โชคลาภ ค้าขาย วาสนาบารมี


ผ้ายันต์ ม้าเสพนาง ครูบาวัง

 ทุกผืนเขียนด้วยมือด้วยปากกา ม้าเสพนาง (ยุคต้น)


ผ้ายันต์ม้าเสพนาง ครูบาวัง วัดบ้านเด่น จังหวัดตาก


ม้าเสพนาง สีคล้ายจีวรพระ (ผ้าย้อม) หายากสุด
ม้าเสพนาง สีคล้ายจีวรพระ (ผ้าย้อม) หายากสุด












ผ้ายันต์ม้าเสพนาง



วันพุธที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2553



ครูบาวัง พรหมเสโน อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านเด่น ต.หนองบัวเหนือ อ.เมือง จ.ตาก
เป็นพระเถระที่เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติครบถ้วนในสมณสารูป มีความเมตตากรุณาแก่ผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก โดยท่านได้สร้างวัดบ้านเด่นตั้งแต่ยังเป็นป่าดง จนกลายเป็นวัดที่เจริญรุ่งเรือง มีผู้รู้จักกว้างขวางอย่างที่เห็นในปัจจุบัน นอกจากนั้น ยังได้สร้างพระเครื่องรางของขลังจนเป็นที่ยอมรับของลูกศิษย์ลูกหาว่าเป็นของดีที่มีคุณค่า ท่านถือกำเนิดที่บ้าน ต.เหมืองจี้ อ.เมือง จ.ลำพูน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 ก.ย. 2434 ปีเถาะ เป็นบุตรของเจ้าคำปวน และเจ้าบัวเงา ณ ลำพูน บิดามารดาเป็นเชื้อสายเจ้าภาคเหนือ แต่ครอบครัวของพ่อยึดอาชีพค้าขายทำไร่ทำนาตลอดมา มำพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน 8 คน เป็นชาย 4 หญิง 4 ต่อมาภายหลังได้เปลี่ยนนามสกุลใหม่เป็น " แก้วมหาวงศ์ "

เมื่ออายุ 12 ปีได้บรรพชาเป็นสามเณรและศึกษาเล่าเรียนอยู่ที่วัดบ้านเหมืองจี้ จนกระทั่งอุปสมบทเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2455 ณ วัดบ้านแป้น อ.เมือง จ.ลำพูน โดยมีพระกันธิยะ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการปั๋น เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการปุ้ม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า " พรหมเสโน"

หลังอุปสมบทแล้วได้ออกเดินธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ โดยครั้งแรกได้ธุดงค์ไปช่วยสร้างวัดต้นธงชัย อ.แม่พริก จ.ลำปาง จนได้เป็นเจ้าอาวาสอยู่ 4 พรรษา ต่อจากนั้นได้ธุดงค์ไปช่วยสร้างวัดสองแคว อ.เมือง จ.ตาก อีก 2 พรรษา และได้เป็นเจ้าอาวาสเช่นกัน หลังจากนั้นจึงได้มาสร้างวัดบ้านเด่น

ในจำนวนเวลาที่เดินธุดงค์ 12 ปีนั้น มีอยู่ 2 ปีที่ท่านได้ธุดงค์ไปเมืองย่างกุ้งเพื่อเรียนภาษาพม่า และได้เรียนเวทย์มนต์คาถาที่เป็นภาษาพม่าจนมีความชำนาญอย่างดี จึงเดินทางกลับเมืองไทย ในระหว่างทางได้พบป่าแห่งหนึ่งชื่อ " ป่าเด่นกระต่าย " ซึ่งมีความร่มเย็นน่าอยู่อาศัย และมีหมู่บ้านที่ห่างไกลและยากจน จึงคิดสร้างวัดขึ้นเพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลชาวบ้านในการประกอบ

พิธีกรรมทางศาสนา เริ่มแรกท่านได้สร้างกุฏิมุงหลังคาด้วยไม้แฝกก่อน 3 หลัง ซึ่งนับเป็นสำนักสงฆ์ที่แห้งแล้งยังไม่มีอะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว ต่อมาประชาชนในต.หนองบัวเหนือ อ.เมือง จ.ตาก ซึ่งอยู่ในบริเวณที่สร้างวัดบ้านเด่น ได้มองเห็นความจำเป็นของพระสงฆ์ที่ทนทุกข์ยากลำบากในเรื่องความเป็นอยู่ และอาหารการกิน จึงสละแรงกายแรงใจช่วยกันคนละไม่คนละมือร่วมกับพระสงฆ์สามเณร จนได้ศาลาไม้เก่าขึ้นมาหนึ่งหลัง และให้ชื่อว่า " วัดบ้านเด่น " ตามสถานที่ตั้งวัดซึ่งเป็นป่าเด่นกระต่าย เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ป่าแห่งนี้

ทั้งนี้ ก่อนที่วัดบ้านเด่นจะมีชื่อเสียงเด่นสมชื่อสมความปรารถนาของครูบาวัง วัดแห่งนี้ได้รับความอุปถัมภ์จากปลักอำเภอเมืองตาก และครอบครัว รวมทั้งประชาชนทั่วไป ปลัดอำเภอท่านนั้นก็คือ " ขุนโสภิต " บิดาของจอมพลถนอม กิตติขจร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเลื่อมใสศรัทธาในหลวงพ่อครูบาวัง ซึ่งได้มอบตัวเป็นศิษย์และเป็นผู้บริจาคทรัพย์ร่วมสร้างวัดเป็นจำนวนมาก ครูบาวังท่านเป็นเจ้าอาวาสผู้ถือปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานมาโดยตลอด ได้บำเพ็ญประโยชน์ช่วยเหลือสาธุชนผู้ตกทุกข์ได้ยากเสมอมาด้วยความเมตตาปรานี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่เพื่อนมนุษย์ทุกหมู่เหล่า โดยไม่มุ่งหวังสิ่งตอบแทนใดๆ จนมีศิษยานุศิษย์มากมายทั่วประเทศ

เครื่องรางของท่านที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในภาคเหนือ และมีประสบการณ์ความศักดิ์เข้มขลังก็คือ ?ตะกรุด? ซึ่งมีหลายชนิด เช่น ตะกรุด 5 ดอก,9 ดอก,108 ดอก,ตะกรุดจำปาสี่ต้น,ตะกรุดคลอดลูกง่าย,ตะกรุดแหนบใบพลู และสีผึ้งน้ำมนต์ ,ชานหมาก และเหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก ปี2506 นอกจากนี้

ท่านยังมีความเชี่ยวชาญในเรื่องรักษาไข้และโหราศาสตร์ รวมทั้งมีพรพิเศษอีกประการหนึ่งคือ ท่านสามารถนั่งเทียนสะเดาะเคราะห์ เทียนให้โชคลาภ หรือนั่งเทียนเพื่อให้ชนะคดีความยามขึ้นโรงขึ้นศาล และในเรื่องอื่นๆ

วาระสุดท้ายแห่งชีวิต ครูบาวังได้ละสังขารลงด้วยอาการสงบเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2516 เวลา 24.00 น. ณ โรงพยาบาลกำแพงเพชร ด้วยวัย 82 ปี พรรษาที่ 62 โดยดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ้านเด่น 56 พรรษา