วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ผ้ายันต์พระพุทธสิหิงค์หลวง สุดยอดผ้ายันต์แห่งล้านนา



ผ้ายันต์พระพุทธสิหิงค์หลวง สุดยอดผ้ายันต์แห่งล้านนา เป็นผ้ายันต์เขียนด้วยมือด้วยหมึกสักลงผ้าโบราณ(ผ้าดิบ) นิยมเก็บไว้ใช้ไว้บูชาหรือไว้กับบ้านเรือน
พุทธคุณครอบจักรวาล เชื่อว่าผู้ใดมีผ้ายันต์พระสิหิงค์ไว้ในครอบครอง จะมีประโยชน์มากมายกับการดำเนินชีวิต คือใช้อาราธนาได้นานับประการเลยทีเดียว



รายละเอียดผืนนี้
งานเขียนมือ บนผ้าดิบ สวยมาก เก่า หาไม่ง่าย ฝีมือใช้เยี่ยม ศิลป์ อลังการ ผืนใหญ่ประมาณ 1 เมตร
ในสุดเป็น พระพุทธสิหิงค์ ล้อมชั้นที่สองด้วย พระสาวก 12 องค์ ล้อมชั้นที่สามด้วย ขบวนเทพต่างๆ อีก 12 กลุ่ม
นอกสุดเป็น รูปท้าวจตุโลกบาล นาคบ่วงบาศ์ก์ รูปม้ารูปนกคุ้มภัย ยันต์ปัฐมัง คาถานวภา คาถาทุกขันเต รวมคาถาโชคลาภ และแคล้วคลาดเพียบ


สมัยโบราณเมื่อมีการหล่อ ปั้น หรือแกะสลักพระพุทธรูปด้วยไม้แล้ว จะนำไปกระทำพิธีแล้วถวายไว้บูชาไว้ที่วัด เพราะถือว่าที่อยู่ของพระพุทธรูปคือที่วัด จะไม่เก็บองค์พระพุทธรูปไว้บูชาที่บ้านเหมือนกับปัจจุบัน ถ้าใครเก็บไว้ที่บ้านถือว่าไม่ถูกต้อง ว่ากันว่าเป็นพระบ้านไปเสีย บนหิ้งพระในบ้านจะมีคำไหว้พระ คำไหว้พระธาตุ รูปเขียนเจดีย์ที่สำคัญหรือรูปเขียนสีพระพุทธรูปนั้น อย่างกับพระพุทธรูปที่ชื่อว่าพระสิหิงค์ ผู้ที่เป็นชายหัวหน้าครอบครัวก็จะเรียนเอาคำไหว้พระสิงห์ หรือคาถาพระสิงห์ คือคาถาปฐมัง ไว้ไหว้ทุกค่ำเช้า และบุคคลที่มีความรู้ในด้านคาถาอาคม มีความรู้ด้านขีดเขียน ก็จะเขียนรูปพระสิหิงค์บนแผ่นผ้า พร้อมทั้งเขียนภาพพระสาวกบางองค์ เขียนรูปท้าวจตุโลกบาล เขียนรูปช้างม้าลงไปด้วยและเขียนคาถาปัฐมัง คาถานวภา คาถาทุกขันเต เป็นต้น ลงบนแผ่ผ้านั้นๆ และเขียนแผ่นผ้านั้นว่า “ขบวนพระสิหิงค์ ”การทำผ้ายันต์พระสิหิงค์แต่ละผืนนั้นต้องใช้เวลาและความพยายามสูงเพราะมีวิธีการทำที่ยุ่งยากพอสมควร ดังนั้นจึงเชื่อว่า ผู้ใดมีผ้ายันต์พระสิหิงค์ไว้ในครอบครองจะมีประโยชน์มากมายกับชีวิต

วิธีใช้ผ้ายันต์พระสิหิงค์ ใช้ได้ ๑,๐๐๐ ช่อง คือใช้ได้นานับปาการ เลยที่เดียว ยกตัวอย่างเช่น หากจะบูชาไว้ป้องกันขึดเขิง คืออุบาทว์ทั้งหลายทั้งปวง ให้ว่าด้วย “อิติปิโส ภควา ข้าขออาราธนาพระพุทธเจ้ากับเจ้าแม่ธรณีทั้ง ๘ ทิศข้าก็ขอถวายตั้งจิตและสันดาน ที่สถานที่ ที่หย้าว ที่เรือน ขออย่ามีอุบาทว์จังไร มีทั้งประตูไม้ใผ่ ที่ใต้ถุน ที่ลุ่ม ที่เข็ญ ที่กับผะนัง ไม้หักไม้โค่น ทับที่ทับแดน แลนแล่นขึ้นเรือน งูเหลือมเลื้อยขึ้นชาน ช้างเถื่อนเข้าบ้าน เข้าสารออกงอกใบ เห็ดขึ้นกลางเตาไฟ มดปลวกรังแทงขึ้นใต้ถุนพื้นที่นอน วัวเปนสีจักเขาหักเขาคลอน นอนกรนนอนครางดังเหมือนดั่งเสียงฆ้อง เรือร้องดังเสียงกลอง กล้วยออกปลีทังข้างกลายเป็นดอกบัว ผีไห้ผีโห่ตัวสั่นถ่วาถ่วา ขันสำฤทธิ์ห้าวแตกเหมือนดาวกระจาย แมงมุมตีอก หนูกุกในเรือน นกเค้านกแขกมาแถกหลังคา ข้าพเจ้าจิ่งเอาน้ำเขาสูตรมาผะผายช้างม้าโยยาท่านหากกลัวเรา”

ขอขอบคุณข้อมูล  ผู้ช่วยศาสตราจารย์วิลักษณ์  ศรีป่าซาง